คำว่า “Ping” เป็นคำที่ช่างระบบเครือข่าย หรือสายเน็ตเวิร์ค ค้นเคยกันดี
คำว่า “RTT” แม้จะไม่ค่อยได้ยิน แต่มักปรากฏในมาตรฐาน หรือข้อกำหนดคุณภาพ
คำว่า “Latency” และ “Lag” เป็นสิ่งที่เกมเมอร์พูดถึงกันบ่อย
คำว่า “Jitter” อาจพบในการทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ต หรือ Speed Test
สี่คำนี้มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร? และมันคืออะไร? เรามาดูกันเลย…
1.Ping
คือเครื่องมือทดสอบการเชื่อมต่อและการตอบสนองของเครือข่ายและโฮสต์ปลายทาง เป็นคำสั่งบนพีซีที่ทำงานโดยการส่ง ICMP (Internet Control Message Protocol) ประเภท "echo request" ไปยังโฺฮสต์เป้าหมาย และรอการตอบสนองกลับเป็นข้อมูล "echo response" ระยะเวลาที่วัดได้นี้จะเรียกว่า “RTT” (Round Trip Time)
“Ping ไม่ใช่ Ping-Pong แต่เป็นคำที่นำมาจากการตรวจสอบวัตถุของระบบโซน่า (Sonar) ของเรือ”
2.RTT (Round Trip Time)
คือระยะเวลาที่วัดได้จากการ Ping มีหน่วยเป็น ms (mili-seconds) ค่า RTT นี้จะบ่งบอกสถานะการเชื่อมต่อและการตอบสนองของโฮสต์เป้าหมาย และการประเมินค่า RTT จะทำให้เกิดคำว่า “Latency”
“กสทช ได้ประกาศเรื่อง มาตรฐานการให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ.๒๕๖๒ โดยกำหนดค่า RTT ของโครงข่ายโทรคมนาคมประจำที่ (เน็ตบ้าน)ไว้ว่าต้องมีค่าไม่เกิน 50ms แต่ทุกวันนี้ที่เป็นไฟเบอร์บรอดแบนด์เกือบทั้งหมดแล้ว จะสังเกตเห็นว่าค่า RTT จะมีค่าต่ำกว่านี้มาก (<10ms)”
3.Latency
คือความหน่วงหรือล่าช้าของการตอบสนองของโฮสต์เป้าหมาย จากการนำค่า RTT จำนวนหนึ่งที่ได้จากการ Ping มาคำนวณค่าเฉลี่ย และเปรียบเทียบกับค่ามาตรฐาน หากค่า RTT ต่ำกว่าค่าที่กำหนดแสดงว่าการตอบสนองดี (Low Latency) แต่หากค่า RTT สูงกว่าค่าที่กำหนดแสดงว่าการตอบสนองไม่ดี (High Latency) และจะส่งผลต่อการเล่นเกมออนไลน์ทำให้เกิดอาการ “Lag”
4.Lag
คืออาการเกมออนไลน์กระตุก ตอบสนองช้า ล้าหลัง ไม่ทันท่วงที ไม่ทันเพื่อน
“แต่จะจบไม่สวย หากยังรู้คำว่า “Jitter” ซึ่งเรามักจะเห็นอยู่บ่อยเวลาทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ต หรือ Speed Test”
5.Jitter
คืออาการ Ping กระโดด (Spike) หรือติดขัด (Stuttering) มีค่า RTT ไม่นิ่ง แกว่งไปมา หรือมีการเปลี่ยนแปลงจากค่าเฉลี่ยปกติอย่างฉับพลัน หากค่า Jitter มีค่าสูง แสดงว่าค่า RTT มีความผันผวนอย่างรุนแรง จะส่งผลกระทบต่อคุณภาพการใช้งานประเภทสดๆ (Real Time) และมีการโต้ตอบกัน เช่น โทรศัพท์ (VoIP, Video Call), ประชุมทางไกล (Video Conference), เกมออนไลน์, ถ่ายทอดสด (Live) เป็นต้น
“Cisco ได้กำหนดค่า Jitter ว่าควรมีค่าไม่เกิน 30ms”
Latency vs. Jitter
- หากค่า Latency ต่ำมาก ค่า Jitter ก็ควรจะต่ำ — แสดงว่ามีคุณภาพดีมาก
- หากค่า Latency ต่ำ แต่ค่า Jitter สูง — แสดงว่ามีค่า RTT ไม่นิ่ง ซึ่งทำให้คุณภาพไม่ดี
- หากค่า Latency แม้ไม่ต่ำแต่อยู่ในเกณฑ์ และค่า Jitter ต่ำ — แสดงว่ามีคุณภาพใช้ได้
- หากค่า Latency สูงมาก ค่า Jitter ก็ควรจะสูงด้วย — แสดงว่าคุณภาพแย่มาก
สรุปแล้ว Ping, RTT, Latency, Lag, Jitter ล้วนมีความสัมพันธ์กันทั้งสิ้น และบางครั้งไม่ว่าฝรั่งหรือไทยก็อาจใช้คำเหล่านี้มั่วๆกันไปบ้าง
👨💼 Author: Ajarn WS | ⏱ Feb 28, 2021
⚠️ สงวนลิขสิทธิ์ อนุญาตให้แชร์ลิงค์เพื่อประโยชน์สาธารณะเท่านั้น ห้ามคัดลอก ดัดแปลง แก้ไข ก่อนได้รับการอนุญาต
