เทคนิคการเซ็ต Router สำหรับ Network Media Sharing/Content Streaming

Ajarn WS
2 min readAug 24, 2021

Network Media Sharing/Content Streaming คือการแชร์หรือส่งต่อสื่อ หรือเนื้อหา เช่น วิดีโอ (Video) หรือเสียง (Audio) หรือสื่ออื่นๆ กันภายในเครือข่าย

ซึ่งเดิมจะเป็นการแชร์สื่อที่อยู่ในเครือข่าย เช่น การดูหนังด้วยจากกล่อง Network Media Player ที่ดึงเนื้อหาจาก NAS (Network Attached Storage) ที่ทำเป็น Network Media Sever ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงและแชร์สื่อต่างๆร่วมกันได้ ไม่ว่าจะเป็น หนัง เพลง รูปภาพ ไฟล์ต่างๆ

แต่ยุคปัจจุบันที่เน็ตแรง ไวไฟดี การเชื่อมต่อเครือข่ายจะใช้ไวไฟเป็นหลัก และเนื้อหาแหล่งบันเทิงจากผู้ให้บริการจากภายนอก (Video Steaming Provider) ก็สามารถเปิดเล่นในทันที ไม่จำเป็นต้องรอโหลดไว้เหมือนแต่ก่อน

และการควบคุมสั่งการคงไม่มีอะไรสะดวกไปกว่ามือถือในมือเรา เราอาจจะเล่นมันบนมือถือของเรา หรือเพื่อความสะใจ อยากดูจอใหญ่ ภาพชัดระบบ 4K หรือโคตรชัดแบบ HDR ระบบเสียงแบบโรงหนัง Dolby Atmos (5.1) ก็ไม่ใช้เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป จะเห็นว่าผู้ให้บริการสื่อบันเทิงต่างๆจะไม่พยามใช้กล่อง (STB) อีกต่อไป เพื่อเป็นการลดต้นทุน โดยหันไปพัฒนาแอป แล้วใช้การ Cast ขึ้นจอทีวีแทน

แต่อย่างไรก็ตามความบันเทิงเหล่านี้จะไม่ได้เรื่อง หากการเชื่อมต่อไม่แข็งแรง และมีการตั้งค่าบางอย่างบน Router ไม่ถูกต้อง หากท่านประสบปัญหาลองมาตรวจสอบดูว่าท่านพลาดจุดใดไป

  1. เครือข่ายในบ้านท่านมีกี่วง? — หากมีวงเดียวก็ไม่ใช่ปัญหา แต่หากมีการสร้างเครือข่ายไว้ 2 วงหรือมากกว่า ต้องเข้าใจว่ามันไม่สามารถแชร์หรือส่งต่อข้ามวงกันได้ หากท่านใช้งานกันในวงใดวงหนึ่งก็ไม่ใช่ปัญหา แต่หากต้องใช้ร่วมกันทั้งหมดคงต้องหาทางยุบเครือข่ายให้เหลือวงเดียว
  2. เลือกใช้สายแลนก่อนไวไฟ — ในการเชื่อมต่อ Smart TV หรือกล่อง STB เข้ากับระบบเครือข่ายให้ใช้สายแลนหากเป็นไปได้ จะทำให้ระบบมีความสเถียรมากกว่า
  3. เลือกใช้ไวไฟคลื่น 5GHz ก่อน — แต่หากจำเป็นต้องใช้ไวไฟ และอุปกรณ์รองรับคลื่น 5GHz ให้ใช้ 5GHz ก่อน
  4. เลือกใช้ไวไฟคลื่น 2.4GHz หาก 5Gz อ่อน — แต่ก็จะทำให้ประสิทธิภาพลดลง หากต้องการดูหนังระดับ 4K หรืออาจมีปัญหาในการทำ Screen Mirroring
  5. ใช้อุปกรณ์ขยายสัญญาณไวไฟหากสัญญาณอ่อน — หากสัญญาณอ่อนมากจะทำให้เกิดปัญหาความเร็วตก ไม่สเถึยร ซึ่งจะทำให้ภาพไม่ชัด กระตุก หรือเกิดอาการหมุนได้ ควรลงทุนหาอุปกรณ์ขยายสัญญาณไวไฟ (Wi-Fi Extender) ปัจจุบันหาได้ไม่ยาก ราคาไม่แพง ติดตั้งง่าย
  6. ตั้งค่า Router ให้รองรับ
    ⚙️ — Disable: AP/Client Isolation
การตั้งค่าของ tp-link EX25 AX1800

การ Enable: AP Isolation จะทำให้อุปกรณ์ในเครือข่ายแยกกันไม่สามารถมองเห็นกันได้ จึงทำให้ไม่สามารถแชร์หรือสตรีมข้ามอุปกรณ์กันได้

“บางที AP Isolation ก็ถูกเรียกว่า Client Isolation”

⚙️ — Disable: IGMP Proxy

การตั้งค่าของ tp-link EX25 AX1800

⚙️ — Enable: IGMP Snooping

การตั้งค่าของ tp-link EX25 AX1800

IGMP คือ Internet Group Management Protocol ที่ทำให้อุปกรณ์รองรับการทำ Multicast ในเครือข่าย

⚙️ — Enable: WMM

การตั้งค่าของ tp-link EX25 AX1800

WMM คือ Wi-Fi Multimedia เป็นระบบควบคุมคุณภาพ QoS (Quality of Service) ให้จัดลำดับความสำคัญของเสียง (VoIP) และวิดีโอ (Video) ทำให้สื่อที่ใช้งานมีการลื่นไหลไม่ติดขัด

⚙️ — Enable: UPnP

การตั้งค่าของ tp-link EX25 AX1800

UPnP คือ Universal Plug and Play เป็นโปรโตคอลที่ทำให้อุปกรณ์ในเครือข่ายสามารถค้นพบและมองเห็นกัน

👨‍💼 Author: Ajarn WS | ⏱ Aug 24, 2021

⚠️ สงวนลิขสิทธิ์ อนุญาตให้แชร์ลิงค์เพื่อประโยชน์สาธารณะเท่านั้น ห้ามคัดลอก ดัดแปลง แก้ไข ก่อนได้รับการอนุญาต

📚 คลิกดูบทความที่เกี่ยวข้อง…

--

--

Ajarn WS

My broadband Knowledge and Experience Sharing for All